Tuesday, January 13, 2015

FMF #9 [krisyeol nc cut]







ทำให้ชั้นพอใจสิ บางทีชั้นอาจจะยอมกลับไปง่ายๆก็ได้นะ...

อู๋อี้ฟานที่กกกอดเด็กร่างบางจากทางด้านหลัง ยิ่งออกแรงกอดรัดจนแผ่นหลังเล็กแทบจมเข้ากับอกกว้าง และแผ่นอกบางแทบจมหายเข้าไปในโต๊ะพูล

“เฮ้ย! จะทำอะไรเนี่ย เฮ้ย หยุดนะโว้ย ปล่อยเดี๋ยวนี้ไอ้เจ๊กขี้หื่น ปล่อยกู๊.....” แหกปากร้องลั่นพลางดิ้นพล่านอยู่ในอ้อมกอดแกร่ง แต่ยิ่งดิ้นบั้นท้ายนุ่มนิ่มก็ยิ่งเสียดสีกับสิ่งแข็งตึงภายใต้กางเกงของอู๋อี้ฟาน จนเจ้าของมันเผลอสูดปากและปลดปล่อยเสียงครางแผ่วออกมาด้วยความสุขสม

“ซี้ด อ่าห์” ครางเสียงพร่าอยู่ข้างใบหูนุ่มก่อนจะฝังจูบหนักหน่วงลงไปแถวแอ่งชีพจร ตามมาด้วยการใช้ริมฝีปากช่ำชองดูดดึงหยอกล้อกับผิวเนื้ออ่อนแถวจุดไวสัมผัสเพื่อปลุกเร้าอารมณ์

และอู๋อี้ฟานก็ทำมันได้เป็นอย่างดีเสียด้วย


ไม่รู้ว่าเผลอตัวปล่อยไม้คิวให้ร่วงหล่นลงจากมือตั้งแต่เมื่อไหร่แล้วก็ไม่รู้ว่ามันเผลอบังคับตัวเองไม่ได้ไปตั้งแต่ตอนไหน ถึงได้ปล่อยให้มีเสียงครางแผ่วที่แสดงถึงความพึงพอใจจากรสสัมผัสของอีกคนเล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากแดงระเรื่อนั่น

อ่า น่าอายชะมัด!

ร่างเย้ายวนที่กำลังอ่อนระทวยอยู่ในวงแขนล่ำ บอกให้รู้ว่าอีกคนกำลังหลงระเริงไปกับบทเล้าโลมบทที่หนึ่งของเค้า เมื่อเห็นดังนั้นอู๋อี้ฟานจึงจัดการพลิกร่างอรชรให้กลับมานอนหงาย มือข้างหนึ่งรวบข้อมือขาวเอาไว้เหนือหัว ส่วนมืออีกข้างก็จัดการเลิกเสื้อยืดตัวใหญ่โคร่งขึ้นเหนือราวนมแล้วใช้ปลายนิ้วสากลากไล้ผ่านยอดอกสีอ่อนเบาๆ เผื่อปลุกเร้าอารมณ์และลดความสามารถในการต่อต้านขัดขืน

ปาร์คชานยอลนอนหลับตา เม้มปากนิ่ง ขมวดคิ้วแน่น ราวกับกำลังต่อสู้กับตัวเองและความต้องการที่แตกซ่านอยู่ภายใน และคนตัวสูงเมื่อเห็นว่าอีกคนกำลังพยายามควบคุมตัวเองอย่างหนักก็อดไม่ได้ที่จะกลั่นแกล้งให้ตบะแตกออกมาเสียที

ปลายนิ้วสากออกแรงสะกิดยอดอกสีอ่อนแรงขึ้น จนมันแข็งขืนขึ้นล่อตาอย่างเห็นได้ชัด ยอดอกสีสวยที่กำลังแข็งเป็นไตและขนอ่อนบนเรือนกายที่กำลังลุกชันบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าร่างกายของปาร์คชานยอลกำลังตกเป็นทาสการปรนเปรอของเขา คิดได้อย่างนั้นแล้วก็เลยลองใช้บางสิ่งที่จะสามารถปลุกเร้าอารมณ์และครอบครองยอดอกแสนหวานได้ดีมากยิ่งกว่าในการเล้าโลมแทน
อู๋อี้ฟานเลื่อนใบหน้าที่เคยปรนเปรออยู่แถวลำคอลงต่ำมาที่หน้าอกเนียน ก่อนจะใช้โพรงปากร้อนเข้าครอบครองยอดอกสีสวย ดูดดึงราวกับกำลังลิ้มชิ้มรสลูกกวาดแสนหวาน ในขณะที่อีกข้างก็ยังใช้นิ้วสะกิดหยอกล้ออย่างพึงพอใจไม่ให้น้อยหน้ากันแม้แต่สัมผัสเดียว

ร่างขาวที่นอนเปลือยครึ่งท่อนอยู่ใต้ร่างเริ่มหอบหนัก เสียงลมหายใจที่ขาดหายเป็นช่วงๆ แปรผันตรงต่อจังหวะการดูดดึงของริมฝีปากหนา ทุกยามที่โพรงปากร้อนบรรจงส่งแรงดูดมากขึ้น คนที่ถูกปรนเปรอก็เผลอกลั้นลมหายใจ ก่อนจะผ่อนมันออกยาวๆ ด้วยความทรมานปนสุขสมเมื่อริมฝีปากร้อนผละออกไป ปาร์คชานยอลไม่ได้ขัดขืน ไม่แม้แต่จะมีความคิดที่จะขัดขืนอยู่ในหัว อาจเพราะเพิ่งเคยได้รับสัมผัสแปลกใหม่จากคนที่ได้ชื่อว่าเป็นเพศเดียวกันเป็นครั้งแรก อาจเพราะความร้อนแรงของคนบนร่าง หรืออาจเพราะความโง่เง่าส่วนบุคคล ที่กดประสาทสั่งการส่วนผิดชอบชั่วดีให้ต้องสูญเสียความสามารถในการป้องกันตัวและการต่อต้านขัดขืน...อันนี้ก็ไม่รู้


ความร้อนแรงของอู๋อี้ฟานกำลังหลอมละลายให้ปาร์คชานยอลต้องอ่อนระทวย



ใช้เวลาเล่นสนุกกับเรือนร่างสวยงามอยู่พักใหญ่ๆ จนมันเริ่มรู้สึกว่ากำลังจะควบคุมตัวเองไม่ได้ อู๋อี้ฟานก็ผละออกมาจากหน้าอกบางด้วยความเสียดาย ตัดใจเลื่อนใบหน้าขึ้นไปหาใบหน้าหวานอีกครั้ง ทั้งที่ความจริงมันอยากจะลงไปสำรวจส่วนน่ารักด้านล่างใจจะขาดแต่ก็ต้องอดทนข่มใจ และบังคับตัวเองให้ได้

ยังหรอก...เค้ายังต้องถนอมร่างกายของเด็กคนนี้ไปอีกนาน


ร่างสูงเท้าศอกข้างหนึ่งที่ยังว่างกับโต๊ะพูล ยันตัวเองขึ้นเพื่อมองดูในหน้าหวานชื้นเหงื่อที่กำลังหลับตาพริ้มด้วยความทรมานปนสุขสม ใบหน้าสวยสมบูรณ์แบบที่เค้าหลงรักตั้งแต่แรกเห็น หลงรักแม้เพียงมองผ่านกล้องวงจรปิด หลงรักทั้งที่ไม่รู้ว่าเด็กคนนี้เป็นคนของใครและมาที่นี่เพื่อจุดประสงค์อะไร หลงรักจนแม้เวลาจะห้ามหัวใจเพียงเสี้ยววินาทีก็ยังทำไม่ทัน...
ดวงตาคมไล่มองสำรวจเครื่องหน้าที่เค้าหลงใหลอยู่ซักพัก ก่อนจะก้มลงประทับริมฝีปากอุ่นลงกับเปลือกตามันวาว ฝังริมฝีปากนิ่งอยู่อย่างนั้น เนิ่นนาน ราวกับต้องการซึมซับความหวานของร่างกายนี้ และหากเป็นไปได้...ก็ต้องการให้เด็กตาโตคนนี้รับรู้ถึงอณูความรู้สึกบางอย่างที่เค้าพยายามสื่อสารมันผ่านรอยจูบนี้ด้วย เนิ่นนานเท่าไหร่ไม่มีใครรู้ อู๋อี้ฟานเองก็ไม่อยากรู้เหมือนกัน สมองมันสั่งการก็เพียงแค่ให้ประทับจูบอยู่อย่างนั้น แต่มันไม่ได้สั่งการให้ถอนจูบออก
จนกระทั่งมันสัมผัสได้ถึงการเคลื่อนไหวบางอย่างภายใต้ริมฝีปากหยักนั่นแหละ!


เปลือกตาบางสั่นระริกและเพียงไม่นานหยดน้ำใสๆ ก็ไหลออกมาจากหางตา คนตัวสูงรีบถอนริมฝีปากออก เงยหน้าขึ้นดูภาพตรงหน้าด้วยความประหลาดใจ และภาพที่ได้เห็นก็ทำเอาตกใจจนหัวใจแทบตกลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม

ปาร์คชานยอลกำลังร้องไห้...

แต่เปล่าหรอก มันไม่ได้ฟูมฟายเหมือนนางเอกในละคร เด็กคนนี้อดทนและเข้มแข็งเกินกว่าที่จะยอมร้องไห้ออกมาให้เค้าเห็น แต่ก็คงไม่เข็มแข็งพอที่จะอดทนต่อการโดนย่ำยีโดนคนที่ได้ชื่อว่าเป็นเพศเดียวกัน ความกดดันจึงต้องถูกผลักดันออกมาเป็นหยดน้ำตาอย่างที่เห็น
คนที่เพิ่งจะสำนึกผิดต่อการกระทำชั่ววูบที่เกิดจากความพลั้งเผลอใจ ค่อยๆยกนิ้วหัวแม่มือขึ้นเกลี่ยไล้ไปตามหยดน้ำใสที่ไหลออกมาเป็นทางช้าๆหมายจะปลอบประโลม ปลอบใจ ขอโทษ และอีกหลายๆความรู้สึกที่มีต่อคนถูกกระทำ อ่อนโยนที่สุดเท่าที่ผู้ชายหยาบๆ คนนึงจะทำได้ แต่ทำไปได้ไม่เท่าไหร่คนที่เคยนอนหลับตาร้องไห้อยู่เงียบๆ ก็ลืมตาโพล่งขึ้นมา สองมือที่เคยถูกรวบอยู่เหนือหัวยกขึ้นผลักอกแกร่งให้ออกห่างอย่างนึกรังเกียจ ตามมาด้วยการเหวี่ยงกำปั้นที่เต็มไปด้วยกระดูกและมัดกล้ามเนื้อเข้าใส่ใบหน้าหล่อคมสมบูรณ์แบบที่อยู่ตรงหน้า


ผัวะ!!!!


“คุณแม่งทำเชี่ยอะไรวะ!?”  ร่างบางดีดตัวขึ้นนั่งบนโต๊ะพูลโดยอัตโนมัติหลังจากกำจัดคนฉวยโอกาสออกไปให้พ้นทางด้วยฝ่ามือหนักๆทั้งสองข้างได้แล้ว จัดการดึงเสื้อยืดตัวใหญ่กลับมาปกคลุมกายอีกครั้ง ก่อนจะยกหลังมือขึ้นปาดไปทั่วใบหน้าอย่างสะเปะสะปะราวกับต้องการกำจัดสัมผัสน่ารังเกียจเมื่อครู่ออกไปให้หมด

พาผมกลับบ้านเดี๋ยวนี้!” ตะโกนสั่งทั้งที่ไม่ยอมมองหน้าอีกคน แล้วก็วิ่งหนีออกไปทันที

“.....” อู๋อี้ฟานที่ยังจับต้นชนปลายกับเหตุการณ์วุ่นวายเพียงเสี้ยววินาทีได้ไม่ดีนักทำได้เพียงเอื้อมมือไปคว้าเสื้อเชิ้ตตัวเก่งและกุญแจรถมาไว้ในมืออย่างลวกๆ แล้วพาร่างสูงออกวิ่งตามเด็กที่กำลังโกรธจัดไปติดๆ ไม่รู้เหมือนกัน แต่ไม่เคยมีความรู้สึกร้อนรนได้มากเท่านี้มาก่อน 
เค้าก็แค่กลัว...กลัวว่าถ้าปล่อยให้เด็กเลือดร้อนวิ่งหนีออกไปด้วยความโกรธจัดแบบนี้แล้วเค้าอาจจะไม่มีโอกาสได้เจอเด็กนี่อีกเลยก็เป็นได้
แต่ปาร์คชานยอลก็ไม่ได้วิ่งหนีไปไหนหรอก ถึงแม้จะโกรธ โกรธมากจนอยากจะฆ่าอู๋อี้ฟานให้ตายคามือ แต่มันก็ไม่ได้สิ้นคิดและไร้สมองถึงขนาดที่จะวิ่งหนีออกไปทั้งที่ไม่รู้ว่าจะไปไหน และไม่มีแม้เงินติดตัวสักบาท ถึงแม้จะไม่อยากตกเป็นรองแต่ความจริงก็คือเค้าก็ยังต้องพึ่งอู๋อี้ฟานอยู่ดี
เด็กขี้โมโหจึงทำเพียงแค่ออกวิ่งเร็วๆ เพื่อจะสลัดภาพบทรักร้อนและสัมผัสวาบหวิวเมื่อครู่ออกไปจากหัวสมองก็เท่านั้น และจุดมุ่งหมายของเค้าก็คือเจ้า Lamborghini สีดำทะมึนที่จอดเทียบท่าอย่างสง่างามอยู่ที่ลานจอดรถวีไอพีของที่นี่นี่เอง


“โธ่โว้ย!!!” แผดเสียงออกมาด้วยความสิ้นหวังปนสมเพชตัวเองที่ไม่สามารถตอบโต้อะไรกับอีกคนได้ นอกจากมาปลดปล่อยความโมโหใส่ล้อรถสปอร์ตคันงามอย่างนี้


ผลั่กๆๆๆๆ

ยกเท้าเรียวภายใต้รองเท้าผ้าใบมียี่ห้อขึ้นถีบล้อรถอย่างเอาเป็นเอาตาย แรงถีบจากฝ่าเท้าแปรผันตรงต่อความโกรธทั้งหมดที่มีต่ออู๋อี้ฟาน และถึงแม้สุดท้ายจะเป็นเค้าเองที่เริ่มเจ็บเท้าจากแรงปะทะกับล้อยางแข็งๆแต่ปาร์คชานยอลก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุด


ให้ตาย! ไม่เคยรู้สึกเสียเชิงชายมากเท่านี้มาก่อนเลยโว้ย!

“ถ้าโกรธ ทำไมไม่มาลงกับชั้น...” น้ำเสียงทุ้มหยุดฝ่าเท้าที่กำลังจะยกขึ้นถีบล้อรถอีกครั้งลงได้ทันตา และคนถูกถามไม่ได้ตอบ เด็กขี้โมโหทำเพียงแค่เปิดประตูรถแล้วแทรกตัวเข้าไปนั่งที่เบาะนั่งหลังคนขับ เลือกตำแหน่งที่จะทำให้ไม่ต้องมองหน้าคนที่เพิ่งจะเหยียบย่ำศักดิ์ศรีความเป็นชายของเค้าไปหมาดๆ ในขณะที่ตัวการก่อความโมโหยังยืนนิ่งอยู่ที่ประตูฝั่งคนนั่งที่ปิดสนิทไปแล้วด้วยน้ำมือของเด็กขี้โมโห ริมฝีปากหยักขยับเบาๆ ก่อนจะเอื้อนเอ่ยคำขอโทษออกมา


“ปาร์คชานยอล...ขอโทษนะ”


แน่ล่ะว่าคนที่แทรกตัวเข้าไปนั่งในรถเรียบร้อยแล้วไม่ได้ยินมัน...


 [ f i c m o r e f i n ]



ร่างบางรีบพาตัวเองพุ่งเข้าห้องน้ำในห้องนอนก่อนเป็นอันดับแรก ใช่แล้วล่ะ จะเข้ามาทำอะไรถ้าไม่ใช่... เข้ามาสำเร็จความใคร่ให้ตัวเอง

ถึงแม้จะรังเกียจสัมผัสจากอู๋อี้ฟานนักหนาแต่มันก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการถูกเล้าโลมเมื่อครู่ทำให้เค้าเกิดอารมณ์เอาจริงๆ มันทำให้ร้อนรุ่มเสียยิ่งกว่าการโดนสาวสวยหน้าอกคัพซีสักคนมานั่งขย่มอยู่บนร่างเสียอีก จริงอยู่ว่ามันยังคงโกรธ ทั้งโกรธทั้งรังเกียจ ทั้งขยะแขยง สะอิดสะเอียนไปหมด แต่ถามว่า ณ จุดนี้ที่กำลังมีอารมณ์จนแทบคลั่งใครจะสนใจล่ะครับ
ที่ต้องทำก็เพียงแค่ช่วยตัวเองเพื่อกำจัดเอาไอ้อาการแข็งตึงจนน่าอึดอัดออกไปให้พ้นๆ ก็เท่านั้นแหละ


นิ้วมือเรียวรีบปลดตะขอกางเกงและปลดซิปออกไปอย่างลวกๆ แล้วก็ไม่ต้องรีรอให้เสียเวลาเจ้าลูกชายสุดที่รักก็รีบดีดตัวออกมาสูดอากาศภายนอกร่มผ้าในทันที ฝ่ามืออุ่นประคองแท่งเนื้อร้อนที่กำลังขยายขนาดจนน่าตกใจเข้ามาไว้ในอุ้งมือด้วยความเคยชิน ก่อนจะออกแรงรูดรั้งเบาๆ สองสามครั้งเป็นการเริ่มต้น แต่ก็ยังไม่ทันได้กระทำการช่วยตัวเองไปถึงไหน พลันก็มีใครอีกคนเข้ามาให้การช่วยเหลือแทนเสียก่อน!


อู๋อี้ฟานที่สังเกตเห็นความอึดอัดที่ดุนดันอยู่ภายใต้กางเกงยีนส์ผ้าเนื้อหนาจนมันโป่งพองออกมาล่อตาเสือสิงห์อย่างเค้าตั้งแต่อยู่บนรถ การที่ปาร์คชานยอลพยายามเลี่ยงที่จะไม่นั่งข้างๆ เขาเพียงเพราะไม่อยากเห็นหน้า แล้วเลือกที่จะไปนั่งเยื้องที่นั่งคนขับก็ยังไม่รอดพ้นเรด้าร์สแกนการเกิดอารมณ์ของเค้าอยู่ดี เค้าดูออกและรู้ดีในฐานะลูกผู้ชายด้วยกันว่าอาการของคนที่กำลังมีอารมณ์นั้นมันเป็นยังไง และเป็นเพราะมันรู้ถึงได้แอบไปเอากุญแจสำรองจากในห้องทำงาน ถือวิสาสะไขเข้ามาในห้องส่วนตัวของเด็กแสบ เพียงเพราะความหวังดีที่อยากจะเข้ามาช่วยคนที่เกิดอารมณ์ให้ได้ปลดปล่อยให้ผ่อนคลายและหายทรมานก็เท่านั้น


ร่างสูงแอบไขกุญแจห้องน้ำเข้ามาอย่างเงียบๆ โชคเข้าข้างที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยปิดหูปิดตาให้คนที่กำลังมีอารมณ์ไม่ได้ยินและไม่รับรู้ถึงการเข้ามาของเขา อู๋อี้ฟานฉวยโอกาสช่วงชิงจังหวะที่คนหน้าหวานกำลังหลับตาเชิดหน้าขึ้นเพื่อปลดปล่อยอารมณ์เข้าประชิดแผ่นหลังบางจากทางด้านหลัง ในขณะที่สองแขนก็โอบรอบกาย และสองมือก็เข้าประคองส่วนอ่อนไหวอย่างรู้งาน


“ขอโทษ ที่ต้องใช้กุญแจสำรองไขเข้ามา แต่ชั้นคงต้องรู้สึกผิดมากแน่ๆ ถ้าไม่ได้ช่วยนายต่อจนเสร็จ” น้ำเสียงพร่ากระซิบข้างหูและนั่นก็เรียกสติคนที่กำลังปลดปล่อยอารมณ์ไปไกลให้รู้สึกตัวในทันที


“ถะ ถามผมหรือยัง อ่ะ ว่า อ้ะ ต้องการให้คุณ ช่วย หรือเปล่า...” 

ร่างบางหยุดการรูดรั้งลงในทันที พยายามที่จะโต้ตอบกับคนฉวยโอกาสที่ยังหน้าด้านบุกเข้ามายุ่มย่ามในพื้นที่ส่วนบุคคลของเขาโดยไม่ถามความสมัครใจสักคำ หากแต่ฝ่ามือหนาที่กำลังกอบกุมทั้งมือบางและส่วนอ่อนไหวของเขากลับออกแรงรูดรั้งหน้าตาเฉย ทำให้ความสามารถในการควบคุมเสียงให้โต้ตอบออกไปได้เป็นปกติลดลงอย่างเห็นได้ชัด


จะตอบ หรือจะครางก็เอาซักอย่างเถอะอีปาร์ค โอ้ย เพลียตัวเอง =   =^


“โอเค นายไม่ต้องการ แต่ถ้าจะบอกตรงๆว่าชั้นอยากช่วยนายจะเป็นอะไรหรือเปล่า”

“มะ ไม่ต้อง ไม่ต้องช่วย อ้า...” ทั้งที่เอ่ยปากปฏิเสธแต่ท่าทีอ่อนระทวยและเสียงครางสอดประสานเป็นจังหวะยามที่อู๋อี้ฟานลากไล้ฝ่ามือหยาบไปทั่วร่างกายก็คล้ายจะเป็นสัญญาณบ่งบอกเป็นนัยๆถึงการสมยอม

ในที่สุดฝ่ามือบางที่เคยกอบกุมส่วนอ่อนไหวของตัวเองก็ค่อยๆ คลายออกและยอมปล่อยให้ฝ่ามือหยาบของอีกคนเข้าครอบครองส่วนกลางกายของเค้าจนหมด อู๋อี้ฟานกำแท่งเนื้อร้อนที่ขยายขนาดจนเต็มฝ่ามือของเค้าไว้โดยไม่นึกรังเกียจ ก่อนจะเริ่มต้นรูดรั้งมันอย่างอ่อนโยน เพียงสองสามครั้งก็รู้สึกได้ถึงความตื่นตัวเต็มที่
คงเก็บกดมากเลยสินะปาร์คชานยอล

เด็กดื้อสติแตกไปแล้ว ความรู้สึกของการที่ได้โดนช่วยตัวเองโดยคนอื่น โดยฝ่ามือหนาที่ไม่คุ้นเคย ด้วยน้ำหนักมือ ด้วยแรง และวิธีการแปลกใหม่ที่ยากแก่การคาดเดา มันช่างเร้าใจและเสียวซ่านเสียยิ่งกว่าการช่วยตัวเองเป็นไหนๆ เค้าไม่คิดจะต่อต้าน หรือออกปากห้ามร่างสูงอีกแล้วล่ะ ในเมื่อ ณ ตอนนี้สองมือของคนที่เค้ารังเกียจนักหนากำลังเป็นเพียงสิ่งเดียวที่ขับเคลื่อนให้อารมณ์ของเค้าพุ่งสูงจนแทบจะแตะสรวงสวรรค์

ฝ่ามือบางสองข้างไม่ได้ผลักไสหรือทำร้ายร่างกายร่างสูงอย่างที่ควรจะเป็น หากแต่มันถูกใช้ในการสอดใส่เข้าไปใต้เสื้อยืดตัวโคร่ง ลูบไล้ผิวกายเนียนละเอียดของตัวเองอย่างสะเปะสะปะเพื่อเพิ่มความเสียวซ่านและความสุขสม นิ้วมือเรียวบีบเค้นคลึงยอดอกทั้งสองข้างอย่างเมามันแล้วก็ปลดปล่อยเสียงครางแห่งความรัญจวนใจออกมาเมื่อจังหวะด้านล่างที่ถูกชักนำโดยอู๋อี้ฟาน และจังหวะด้านบนที่เจ้าตัวเป็นคนขับเคลื่อนด้วยตัวเองช่างสอดประสานกันได้ดีเหลือเกิน
ณ จุดๆนี้ปาร์คชานยอลคงเป็นคนที่มีความสุขที่สุดในโลกแล้วล่ะ! มีความสุขเหลือเกิน มีความสุขจนแทบคลั่งตายแน่ะ

อู๋อี้ฟานมองภาพของเด็กดื้อที่เคยเอาแต่ปฏิเสธเขาผ่านกระจกบานใหญ่ในห้องน้ำ ภาพใบหน้างอง้ำบอกบุญไม่รับบัดนี้กำลังเคลิ้มสุขด้วยสองมือของเค้า ใบหน้าเรียวเล็กเหมือนเด็กผู้หญิงเชิดขึ้น ดวงตากลมโตปิดสนิท คิ้วหนาตรงขมวดเข้าหากัน ริมฝีปากอิ่มอมชมพูเผยอขึ้นน้อยๆ เปิดทางให้ฟันซี่สวยขบกัดลงมาเพื่อระบายความเสียวซ่าน ในขณะที่ริมฝีปากคู่เดิมก็เอาแต่ส่งเสียงครางหวานหูออกมาไม่ขาดสาย
อู๋อี้ฟานหลงรักใบหน้านี้เหลือเกิน...


ร่างสูงกัดฟัน แข็งใจ และพยายามอดทนข่มความต้องการจากภายในเพื่อจะช่วยไปส่งเด็กขี้ดื้อให้ถึงฝั่งฝัน ทั้งที่ภาพใบหน้าขณะมีอารมณ์ของคนตรงหน้ากำลังเล่นงานร่างกายส่วนล่างของเขาอย่างหนัก ส่วนกลางกายของอู๋อี้ฟานที่ถูกกดทับลงมาโดยสะโพกอวบตึง ร่างกายส่วนบนที่ถูกอีกคนยึดไปเป็นที่พึ่งพิง เสียงครางหวานที่เล่นงานสองหู แล้วไหนจะส่วนกลางกายที่กำลังขยายขนาดอยู่เต็มฝ่ามือนี่อีก
ไม่ไหวแล้วครับ ลูกชายพี่อู๋กำลังอึดอัด ลูกชายพี่กำลังต้องการการปลดปล่อย!
กัดฟันเร่งจังหวะชักรูดแก่นกายถี่ยิบในช่วงโค้งสุดท้ายเพื่อจะรีบช่วยอีกคนให้เสร็จๆ ก่อนที่เค้าจะเป็นฝ่ายเสร็จเสียเอง และสิ่งที่ได้รับกลับมามีเพียงเสียงหวานที่เอ่ยเร่งเร้าอย่างเอาแต่ใจยิ่งทำให้ความสามารถในการควบคุมน้องชายยิ่งลดลงไปอีก

“อ้ะ อ้า คะ คุณ ดีมาก ดีมากๆเลย อ้า...”

“ระ เร็วอีก อ้า นั่นแหละ...”

“อืม ซี้ดดด อ้ะๆๆๆ อ้า....”    ร่างบางปลดปล่อยเสียงครางแห่งความสุขสมออกมาลั่นห้องน้ำแคบ ก่อนจะทิ้งกายลงซุกซบร่างหนาด้านหลังที่เป็นคนช่วยเค้าจนสำเร็จความใคร่ไปได้อย่างถึงใจสุดๆ ถึงจุดนี้ไม่มีอีกแล้วคำว่าอายหรือรังเกียจ ความช่วยเหลือที่ถึงใจจากร่างสูงทำให้ลืมความขุ่นเคืองในใจไปได้ชั่วคราว


ปาร์คชานยอลเอียงใบหน้าซุกเข้าหาลำคอแกร่ง ไม่ใช่เพราะความตั้งใจ แต่น่าจะทำไปเพราะสันชาตญาณ ก่อนจะพ่นลมหายใจหอบหนักใส่ลำคอแกร่งให้อีกคนได้สยิวเล่น และอู๋อี้ฟานทำเพียงแค่ปล่อยมือออกจากแท่งเนื้อร้อนที่เริ่มอ่อนตัวลงหลังจากได้ปลดปล่อยความต้องการออกมาชุดใหญ่ แล้วเลื่อนสองมือมาโอบรอบเอวบาง ยืนนิ่งๆแล้วปล่อยให้เด็กดื้อยืนพิงอยู่อย่างนั้น


“คุณ...ขอบคุณมากนะ” 

พูดเพ้อออกมาเสียงเบาหวิวราวกับคนไม่รู้สึกตัว และอู๋อี้ฟานทำเพียงแค่ขานรับในลำคอ ในขณะที่สองมือยังประคองกอดอยู่ที่เอวบางไม่ห่างไปไหน
อู๋อี้ฟานยืนนิ่งๆ ให้เด็กดื้อที่เพิ่งเสร็จจากกิจกามปลดปล่อยความต้องการไปสดๆ ร้อนๆ หายใจรดต้นคอ และเอาสะโพกกลมกลึงเสียดสีกับลูกชายได้ไม่นานก็เริ่มรู้ตัวว่าทนไม่ไหวอีกต่อไป และถึงแม้มันจะเสียดายแต่ก็ต้องตัดใจบอกลา ก่อนที่มันจะอดใจไม่ไหวจัดการใช้เรือนกายนุ่มนิ่มนี้เป็นที่ระบายความใคร่แทนเสียก่อน

“ชานยอลอ่า ชั้นจะไปแล้วล่ะ” คนที่ยังเคลิ้มฝันอยู่ในห้วงแห่งกามารมณ์ปรือตาขึ้นมองอีกคนอย่างยั่วยวน ก่อนจะผละกายออกมาช้าๆ

“ผม ไม่ช่วยคุณกลับนะ”

“ไม่เป็นไร ที่บอกว่าจะไป ชั้นก็หมายถึงจะไปช่วยตัวเองน่ะแหละ ชั้นไปเลยนะ ทนดูนายยั่วมานานจนน้ำจะแตกตรงนี้อยู่แล้วอ่ะ”


ปาร์คชานยอลยกยิ้มมุมปากแทนคำบอกลาก่อนจะปล่อยให้อีกคนได้ไปสำเร็จความใคร่ให้ตัวเองบ้าง และถึงแม้ว่าร่างสูงจะออกไปนานแล้วแต่ดวงตากลมโตก็ยังไม่วายจับจ้องไปที่บานประตูห้องน้ำอยู่อย่างนั้น ด้วยความรู้สึกมากมายที่ถาโถมเข้าเล่นงานในหัวใจจนอธิบายไม่ถูก




เป็นสุภาพบุรุษกับเค้าก็เป็นเหมือนกันนี่นาอู๋อี้ฟาน



TBC