“พี่คริส...”
ผมเรียกอีกคนเสียงแผ่วไม่คิดว่าพี่คริสจะมายืนอยู่ตรงนั้นในเวลาแบบนี้
ไม่รู้ว่าเขามายืนอยู่ตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วเขาจะรู้มั้ยว่าผมออกไปดูอะไรมา
“นี่นายแอบดูสองคนนั้นเหรอ
เด็กทะลึ่ง” เขาสาวเท้าเข้ามาใกล้พร้อมกับรอยยิ้มมุมปากที่คล้ายจะเอ็นดูแต่ก็แฝงความอันตรายอยู่ในที
“ผมเปล่า
ก็เขาดันออกมาทำกันตรงนั้นเอง แล้วเล่นครางดังขนาดนั้นผมก็อยากรู้น่ะสิ” ผมอธิบายออกไปตามตรง
แม้จะรู้อยู่แก่ใจว่าสถานการณ์ทั่วไปไม่ค่อยปลอดภัยนัก แต่ผมก็เลือกที่จะพูดมัน อย่างน้อยๆผมต้องบอกให้เขารู้ว่าผมไม่ได้ตั้งใจที่จะไปดูให้เกิดอารมณ์
และผมก็ไม่ได้ต้องการให้เราจบลงแบบสองคนนั้น
“นายอยากรู้เรื่องอะไร
ให้ฉันบอกให้ก็ได้นะชานยอล” คราวนี้เขายกมือขึ้นจับที่ต้นแขนเปลือยเปล่าของผม
ก็นี่มันเวลานอนเพราะฉะนั้นชุดที่ผมกำลังสวมใส่จึงไม่ได้รัดกุมนัก
มันมีแค่เสื้อกล้ามโง่ๆกับกางเกงย้วยๆใส่สบายที่ผมโปรดปรานเท่านั้น
จู่ๆผมก็รู้สึกว่าฝ่ามือของเขาเย็นเฉียบขึ้นมาอย่างน่าประหลาด
ถึงขนาดที่ทำให้ผมขนลุกขนชันเพียงแค่เขาสัมผัสมันเบาๆ ผมบิดเกร็งไปทั้งร่าง
พยายามจะขืนตัวหนีแต่ก็ถูกพี่คริสตามมาจับตัวไว้ไม่ให้หนีไปอย่างที่ใจนึก
“นายมีอารมณ์?”
“ผม เอ่อ
ก็นิดหน่อย แต่ไม่เป็นไร ผมกำลังจะไปจัดการตัวเอง” เป็นเพราะโดนเขาสัมผัสทำให้ร่างกายผมเสียกระบวนไปหมด
เนื้อตัวของผมสั่นระริกจนแสดงออกมาทางน้ำเสียง ผมถึงได้ตอบเขาไปแบบติดๆขัดๆ
แถมยังไม่มีแรงพอที่จะปฏิเสธสัมผัสจากเขาอีก
ผมรู้ว่าพี่คริสดูออกและในตอนนี้ก็กำลังพยายามไล่ต้อนลูกแกะโง่ๆอย่างผมให้จนมุม
ผมรู้ทุกอย่างแต่แค่ไม่รู้วิธีการที่จะต่อต้านเท่านั้นเอง
ผมเชื่อแล้วว่าเวลาพี่คริสกลายร่างเป็นเสือ
เขาสามารถทำให้ทุกคนสยบอยู่แทบเท้าได้จริงๆ
“ให้ฉันช่วยไหม
ฉันอาจจะทำให้นายผ่อนคลายได้มากกว่าที่นายช่วยตัวเอง” พี่คริสพูดมันพร้อมกับไล้ปลายนิ้วจากต้นแขนของผมเรื่อยลงมาจนถึงฝ่ามือราวกับต้องการปลอบโยนให้ผมผ่อนคลาย
ผมยิ่งบิดเร่า ราวกับสัมผัสเบาๆจากเขาทำให้ผมค่อยๆขาดสติ
จนแม้กระทั่งโดนเขารั้งเข้าไปกอดผมก็ยังยืนให้เขากอดอยู่ได้โดยไม่ปฏิเสธมัน
พี่คริสกอดผมแน่นเหลือเกิน
ฝ่ามือของเขาซุกซนไปตามสัญชาตญาณ มันปัดป่ายลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังของผม
แล้วเลื่อนลงต่ำไปวางแหมะอยู่ที่บั้นเอว
เข้าใจว่าเขาคงอดกลั้นมานานถึงได้ระบายมันด้วยการบีบขย้ำบั้นเอวผมแรงๆ
โดยในระหว่างที่ฝ่ามือกำลังลูบไล้มอบสัมผัสชวนหลงใหลไปทั่วร่างกายผม ใบหน้าคมก็จมอยู่ที่ซอกคอ
เขาทั้งจูบทั้งดูดทั้งสูดดมสลับกันไป ผมไม่รู้ว่าเขาทำอะไรกับซอกคอของผมไปบ้าง
ที่รับรู้ได้ก็มีเพียงเสียงสูดลมหายใจและเสียงริมฝีปากที่มอบจูบดูดดื่มไว้บนผิวเนื้ออ่อนของผม
เสียงสูดลมหายใจหนักๆที่โคตรจะอีโรติค
ที่ผ่านมาเคยได้ยินแต่ในทีวีพอมาได้ยินกับสองหูตัวเองแบบนี้บอกเลยว่าโคตรสยิว
ผมไม่อยากต่อต้านเขาอีกแล้ว
กลับกันผมกลับต้องการให้เขาเติมเต็ม ถ้านั่นจะเป็นการช่วยให้ผมผ่อนคลายได้มากกว่าการช่วยตัวเองในแบบที่เคยทำ
ผมก็จะยอมให้เขาทำมัน ไม่ว่าครั้งนี้มันจะไปจบที่ตรง
ไหน
และแม้ว่าผมจะต้องเสียความบริสุทธิ์ให้เขาไปผมก็จะไม่คิดเสียดายเลย
ผมยอมให้พี่คริสดันร่างลงบนโซฟาโดยมีร่างกายของเขาตามลงมาทาบทับ
พี่คริสเลื่อนกายลงต่ำเขาเลิกเสื้อกล้ามของผมขึ้นแล้วถอดมันออกอย่างง่ายดายโดยมีผมที่คอยให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
ริมฝีปากร้อนนาบลงมาที่ไหล่ข้างซ้ายฝากสัมผัสหนักๆเอาไว้แล้วก็เลื่อนลงต่ำไปหาหน้าอกของผมที่ยังมีรอยแดงจางๆที่เขาทำไว้เมื่อคืนก่อน
พี่คริสดูดมันอย่างไม่เบาแรง
เขาไล่กดจูบไปทุกตารางนิ้วแถมยังทำรอยไว้แทบจะทุกตารางนิ้วด้วยเหมือนกัน
จนกระทั่งเขาพึงพอใจถึงได้เปลี่ยนเป้าหมายไปหาของเล่นใหม่ นั่นคือยอดอกของผม
เขาใช้นิ้วมือสากสัมผัสมันก่อน
และมันก็...
“อ้ะ...”
ผมครางออกมาแทบจะในทันที มันรู้สึกดีเป็นบ้า ปกติแล้วผมไม่ใช่คนที่อ่อนไหวไวต่อสัมผัสอะไรขนาดนั้น
แต่กับครั้งนี้ผมรู้สึกว่าผมต้านทานมันไม่ไหว
ผมไม่ได้อยากครางเสียงดังแต่กลับค้นพบว่าการทำมันทำให้ผมผ่อนคลายจากความร้อนรุ่มภายในที่พี่คริสเป็นคนก่อ
“ถ้านายอึดอัดก็ครางออกมาได้
ที่นี่ไม่มีใครอยู่หรอก” เขากระซิบข้างหูผมราวกับตั้งใจยั่วยุ น้ำเสียงแหบต่ำประเภทนั้นทำให้ผมพ่ายแพ้
ยิ่งเขาพูดมันทั้งที่ริมฝีปากชิดติดอยู่กับร่างกายผมยิ่งทำให้ผมร้อนรุ่ม ผมทนไม่ไหว
เขาอันตรายเกินไปจริงๆ
“อ่ะ อ้า...”
ในที่สุดผมก็ครางออกมาเสียงดัง มันออกมาเองตามธรรมชาติ ผมไม่ได้ตั้งใจ
ผมไม่ได้ปรุงแต่ง
รู้เพียงอย่างเดียวว่านี่เป็นวิธีเดียวที่ทำให้ผมผ่อนคลายจากการโดนเขาดูดจนร้อนไปทั่วร่างกายอย่างในตอนนี้
“ตรงนี้ใช่ไหม
จุดอ่อนของนาย ตรงนี้ใช่หรือเปล่า” ผมแทบไม่รู้ตัวว่าปล่อยให้เขาเลื่อนใบหน้าลงต่ำไปถึงตรงนั้นได้ยังไง
ตรงที่อีกไม่กี่เซนติเมตรจะถึงส่วนอ่อนไหวของผม
ผมหอบสะท้านจนตัวโยนเมื่อเขาดูดตรงส่วนนั้นแรงๆ
ยิ่งตอกย้ำให้พี่คริสรู้ว่าเขามาถูกทาง
“นาย อึดอัดใช่ไหม ให้ฉันช่วยนะ”
พี่คริสเลื่อนใบหน้าลงไปเพียงนิดเดียวก็ถึงส่วนกลางกายของผม
มันแข็งตึงและชูชันขึ้นท้าทายริมฝีปากเขาอย่างน่าไม่อายเพราะอารมณ์ที่กำลังแตกปะทุอยู่ภายในของผม
เขาเอ่ยขออนุญาตเพียงเท่านั้น ก่อนจะกลืนกินมันเข้าไป แต่ผมจะบอกอะไรให้ ถึงเขาจะไม่ขอผมก็ยอมให้เขาไปหมดทุกอย่างแล้ว
การนอนแหกขาอ้าซ่าในท่าน่าเกลียด
และเปิดเปลือยร่างกายส่วนล่างต่อหน้าเขาโดยที่ไม่ต่อต้านหรือปกปิดอะไร
เท่านี้ก็น่าจะเป็นคำตอบที่เพียงพอแล้วว่าผมยอมให้เขาขนาดไหน
“ฮึก อ่ะ...”
ผมบิดเกร็งไปทั่วร่าง
จิกนิ้วมือลงกับกลุ่มผมสีเข้มของพี่คริสโดยไม่ตั้งใจและแทบไม่รู้ตัว ผมทรมาน
มันอึดอัด มันปั่นป่วนไปหมด รู้สึกเหมือนตัวเองลอยคว้างอยู่ในอะไรบางอย่างที่ยังหาทางออกไม่ได้
ที่ผมต้องการคือริมฝีปากของเขาให้ช่วยพาผมไปถึงจุดหมาย
ให้ผมผ่านพ้นความทรมานนี้ไปเสียที
“ฮึก พี่ครับ
ช่วยผม ช่วยผมที” ยิ่งเขาเร่งจังหวะผมก็ยิ่งรู้สึกเหมือนจะตาย
ทุกความรู้สึกมันกำลังเอ่อล้น จะแตกปะทุออกมาเมื่อไหร่ก็ขึ้นอยู่กับริมฝีปากร้อนระอุของเขาน่ะแหละ
ผมเอ่ยปากเร่งเร้าอย่างน่าไม่อาย
พร้อมๆกับที่สวนสะโพกใส่โพรงปากของเขา ผมใกล้เสร็จแล้ว
สังเกตได้จากอาการที่ผมเริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้มือไม้เริ่มลูบไล้ไปทั่วร่างกายหมายจะทำให้ตัวเองผ่อนคลายลง
แล้วก็เป็นพี่คริสที่ยื่นมือขึ้นมาช่วยควบคุมยอดออกสองข้างของผม
บดบี้มันด้วยสัมผัสหยาบโลนในขณะที่ริมฝีปากก็ยังชักรูดขึ้นลงไม่ได้หยุด
“พี่คริส ฮึก
อ่ะ พี่ครับ ผม...แฮ่กกกก” สมองของผมว่างเปล่า มันขาวโพลน ในนั้นไม่มีอะไรนอกจากสัมผัสเบาสบายที่ส่วนกลางกาย
กับใบหน้าหล่อจัดที่กำลังจูบฟัดอยู่ที่ร่างกายส่วนล่าง ผมเสร็จแล้ว
มันดีมากอย่างที่เขาบอกจริงๆ มันแทบจะดีกว่าการช่วยตัวเองมาตลอดชีวิตเลยด้วยซ้ำ
ผมลูบกลุ่มผมสีดำด้วยความผ่อนคลาย
คิดว่ามันจะจบลงในเร็วๆนี้
แต่หลังจากนั้นไม่กี่นาทีความรู้สึกอึดอัดก็แทรกเข้ามาที่ช่องทางด้านหลังอย่างไม่ทันตั้งตัว
- part1 end-
อนุญาตให้ไปทำใจให้สงบก่อนมาอ่านพาร์ทต่อไป ไม่อยากให้หักโหมกันนะจ๊ะ55555555 อามิตตาพุทธ_/\_
กลับไปเม้นด้วยนะ แสดงความหื่นของเธอออกมาให้เราเห็นด้วย
>>>จิ้ม<<<