น้องชานยอลเสร็จแล้ว
คนอะไรมีอารมณ์ได้โคตรน่ารัก เขาไม่ใช่พวกเจนจัด ไม่ใช่พวกเก่งกาจ
แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ได้ใสซื่อ ชานยอลเป็นพวกมีประสบการณ์แต่ไม่ใช่พวกร่านรัก
เขารู้วิธีแสดงออกทางอารมณ์ที่ไม่มากและไม่น้อยจนเกินไป ซึ่งมันทำให้ผมหลงรัก
สิ่งหนึ่งที่ผมประทับใจในตัวเขา เขาไม่เสแสร้งและแสดงความรู้สึกออกมาได้ตรงใจ
แม้ว่าในดวงตากลมโตคู่นั้นจะยังมีแววต่อต้านแต่เขาก็ไม่ใช่พวกดื้อด้านต่ออารมณ์ตัวเอง
เพราะงั้นในวันนี้ผมถึงได้มีโอกาสฟังมัน
เสียงหวานๆที่เอ่ยเร่งเร้าผม
สองมือที่จิกทึ้งยามอารมณ์ถูกชักพา แล้วไหนจะสะโพกเล็กๆที่สวนเข้าใส่โพรงปากยามที่ต้องการการปลดปล่อยอีก
น่ารัก...ทุกอย่างที่เป็นเขามันน่ารักและทำให้ผมพึงพอใจไปหมด
มันดีเสียจนผมไม่อยากทำแค่ออรัลเซ็กส์
เขาหลั่งสารหล่อลื่นออกมามากมายจนมันไหลออกมาตามง่ามขา
มันไหลลงไปจนถึงช่องทางสีแดงสดที่ปิดสนิท ผมพยายามอดทนและข่มใจไม่มองมัน
แต่แล้วผมก็ทำไม่ได้ ช่องทางของเขามันยั่วยวนเกินไป
ยิ่งได้อยู่ใกล้ๆก็ยิ่งห้ามตัวเองไม่อยู่
ผมตัดสินใจลงลิ้นเข้าไปสำรวจในช่องทางสีหวานนั่นก่อนทั้งที่ใจจริงอยากใช้นิ้ว
ผมเป็นพวกเครื่องร้อนเร็วและชอบความว่องไวมากกว่าความค่อยเป็นค่อยไปและอ่อนหวานเหมือนเซ็กส์ในฝันที่ใครๆฝันหา
เพราะฉะนั้นที่ผ่านมาเซ็กส์ส่วนใหญ่สำหรับผมไม่เคยใช้ลิ้น
ถ้าถูกใจผมจะใช้นิ้วหรือใส่สดสำหรับบางคนที่ไม่ต้องการการเบิกทาง
แต่กับชานยอลทั้งที่เครื่องผมก็กำลังร้อน ร้อนมากด้วย แต่ผมกลับไม่กล้ารุนแรง
ไม่กล้าข้ามขั้นตอนกับเขา ผมแค่อยากให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยความพึงพอใจ
อยากให้เขามีความสุข
“อึก ฮื่อ...”
น้องชานยอลคราง มันไม่ใช่ความสุขสมแต่มันคือความอึดอัดและทรมาน ช่องทางของเขาบอบบางและอ่อนนุ่ม
มันไวต่อสัมผัส และในตอนนี้ก็กำลังตอบรับต่อเรียวลิ้นของผมเป็นจังหวะถี่รัว
นั่นทำให้ผมเผลอยิ้มมุมปากด้วยความดีใจที่ได้รู้ว่าเขายังซิง ในนั้นมันดีเหลือเกิน
ดีเสียจนผมอยากจะใส่บางอย่างที่แข็งแรงกว่านั้น
และสามารถชักนำเขาให้ทรมานเจียนตายได้มากกว่าลิ้นเข้าไปเสียเดี๋ยวนี้
ผมตวัดลิ้นถี่รัว
ในหัวปั่นป่วนไปหมด ผมอยากทำเขา อยากใส่ตัวตนของตัวเองเขาไปเสพย์สัมผัสเหล่านั้นแทนลิ้นกระจอกๆนี่
ผมหมุนวนลิ้นอยู่ในโพรงลึกลับ
ยิ่งเห็นเขาหยัดเกร็งสะโพกจนมันลอยเหนือพื้นผมก็ยิ่งได้ใจ ยิ่งสอดใส่จนเขาร้องลั่น
“อื้อ อ้า
ฮื่อออ” วินาทีนั้นอยากจะถอนลิ้นออกแล้วเสียบของตัวเองเข้าไปแทนที่แทบตายแต่สุดท้ายก็ทำได้แค่ใช้นิ้ว
ชานยอลยังไม่เคย เขารับมันไม่ไหวหรอก
กับขนาดและความดิบเถื่อนของผมที่มีมากกว่าคนทั่วไป
ขนาดแค่ลิ้นเขายังตอดผมหนักขนาดนี้ ถ้าเป็นของจริงผมกลัวว่าเขาจะตอดจนผมห้ามใจไม่ไหวแล้วเผลอกระแทกเขาจนเลือดตกยางออกเข้าให้น่ะสิ
ผมทำให้ชานยอลช้ำไม่ได้ ผมต้องทะนุถนอมเขาให้ถึงที่สุด
ผมเริ่มต้นด้วยนิ้วกลางใส่มันเข้าไปจนสุดแล้วหมุนควงจนแน่ใจว่ามันโอเค
ชานยอลครางรับและหยัดสะโพกรับต่อทุกสัมผัสที่ผมส่งไป พออดไม่ไหวผมก็รีบใส่อีกนิ้วตามไปขยับสำรวจมันจนทั่ว
ก่อนจะตามมาด้วยนิ้วที่สามซึ่งเป็นขั้นตอนสุดท้ายให้เขาได้เตรียมตัว
ถ้าน้องชานยอลรับได้ลำดับต่อไปผมจะได้ใส่ของผมเสียที
แต่ในขณะที่นิ้วที่สามกำลังเข้าไปจู่ๆน้องเขาก็ร้องไห้ออกมา
“อึก ฮื่ออออ”
ชานยอลไม่ได้เสแสร้ง เขาร้องไห้ในขณะที่ร่างกายก็ตอบสนองด้วยการถดสะโพกหนี
เขาไม่ได้ฟูมฟายแต่จากตรงนี้ที่ผมมองเห็นใบหน้าแดงซ่านของชานยอลเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อที่ผุดซึมออกมาตามรูขุมขน
และน้ำใสๆที่ไหลออกมาจากหางตาอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
“พี่ครับ เจ็บ ผมเจ็บ” ชานยอลร้องขอเหมือนเด็กๆ
เขาเอาแต่ถดสะโพกหนีจากสัมผัสหยาบคายและนอนร้องไห้อยู่อย่างนั้น จนในที่สุดผมก็พ่ายแพ้มันและต้องถอนนิ้วออก
“ชานยอลครับ
พี่คริสขอโทษ ขอโทษนะ จะไม่ทำแล้วค่ะเด็กดี” ผมสวมกางเกงให้เขาแล้วแทรกตัวขึ้นไปนอนข้างๆ
ประคองใบหน้าหวานที่ชุ่มไปด้วยน้ำเหงื่อและน้ำตาเข้ามาแนบอก
ชานยอลสะอึกสะอื้นอย่างน่าสงสาร เขาเหงื่อออกจนตัวเย็นไปหมด
ยิ่งอุณหภูมิในกายผมร้อนเพราะต้องการเขาก็ยิ่งรู้สึกว่าเขาตัวเย็นมากจริงๆ
ผมได้แต่กอดเด็กน้อยที่กำลังร้องไห้โยเยเอาไว้เพื่อให้ความอบอุ่น ปลอบประโลม
ปลอบใจ หรืออะไรก็ได้ที่จะช่วยให้เขาคลายความเจ็บปวดลง
ชานยอลซุกกายเข้าหาผมอย่างต้องการหาที่พึ่ง
นั่นทำให้ผมยิ่งดีใจที่เขาไม่ได้กลัวผมอย่างที่คิด
ถ้าชานยอลรังเกียจสัมผัสจากผมจริงป่านนี้คงวิ่งหนีเข้าห้องไปแล้ว
แต่นี่เขาไว้ใจและยอมนอนให้ผมกอด
ทั้งที่ไอ้เจ้าของอ้อมกอดปลอบใจคนนี้คือคนเดียวกับที่พยายามสอดใส่จนทำให้เขาต้องเจ็บจนน้ำตาไหลเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้า
“ไม่เคยใช่ไหม
เจ็บมากใช่หรือเปล่า ไม่ทำแล้วก็ได้ครับ” ผมเอ่ยปลอบใจซ้ำๆ
จูบปลอบขวัญไปทั่วหน้าผากเนียนและกลุ่มผมชื้นเหงื่อ
ในขณะที่สองมือก็ลูบไปทั่วร่างกายหมายจะทำให้เขาผ่อนคลายลง
“อึก...”
เสียงสะอื้นนั้นเบาลง ผมคิดว่าเขาน่าจะหลับหรือไม่ก็กำลังจะหลับ
ผมก็เลยยิ่งลูบหัวเขาต่อไป ถ้าเขาจะหลับก็อยากให้หลับอยู่ด้วยกันตรงนี้
ผมจะกอดเขาไว้ทั้งคืนเลยถึงแม้ว่ามันจะทรมานและผมจะอยากปลดปล่อยบางอย่างมากแค่ไหน
แต่ผมก็เชื่อว่ามันจะหายเพียงแค่ผมได้นอนกอดเขา
“พี่คริสครับ...”
น้องชานยอลที่ยังไม่หลับเอ่ยออกมาเบาๆทั้งที่ใบหน้าน่ารักและเนื้อตัวนุ่มนิ่มยังซุกซบอยู่กับกายแกร่งของผมไม่ห่าง
“หืม” ผมตอบรับสั้นๆ
แล้วเงียบไป บอกให้เขารู้ว่าผมตั้งใจฟังและกำลังรอคอยประโยคถัดไป
“ขอโทษนะครับที่ช่วยพี่ไม่ได้
แต่วันนี้ผมเจ็บมากจริงๆ” ร่างบางนอนหลับตาพริ้ม
ลมหายใจสม่ำเสมอบอกให้ผมรู้ว่าเขาอาจจะกำลังอยู่ในภาวะsemi-concious ถึงได้กล้ามาสารภาพอะไรแบบนี้ทั้งที่ยังนอนกอดก่ายอยู่บนตัวผม
ผมว่าเขารู้ตัวนะ แล้วก็กำลังรู้สึกผิดด้วย
เพราะส่วนกลางกายที่แนบชิดอยู่กับต้นขานิ่มของเขามันกำลังแข็งและกำลังทิ่มแทงขาของเขาอยู่
ผมว่าเขาน่าจะรู้สึกได้เหมือนกันว่าผมกำลังทรมานและยังไม่ได้รับการปลดปล่อยเขาก็เลยพยายามพูดประโยคขอโทษสุดน่ารักนั่นออกมา
พร้อมกับคำสัญญาที่ทำให้ผมเขินจนแทบบ้าอยู่ตรงนั้นเลย
“เอาไว้ครั้งต่อไปถ้าผมพร้อมเมื่อไหร่ผมจะให้พี่นะครับ...”
“พูดแล้วนะ
ถ้ามีครั้งต่อไปฉันใส่แบบไม่ปรึกษาเลยนะ” ด้วยความดีใจทำให้ผมกอดรัดเขาแน่นขึ้น
พยายามจะก้มลงไปจูบมัดจำแทนคำสัญญาที่เขาเพิ่งเอ่ย แต่ผมก็ทำไม่สำเร็จหรอก
เพราะ...
“ฟี่...”
“ชานยอล
ชานยอลอ่า...”
หลับไปเสียแล้วเด็กน้อยเอ้ย...
TBC
นกว่ะ5555555555555555555555555555555555